คาเฟอีนในกาแฟดีหรือร้ายกันแน่?
    
    
        02 Nov, 2020 / By 
        salacrm01
    
 
    คาเฟอีนในกาแฟดีหรือร้ายกันแน่?
       หากจะพูดถึงเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว สดชื่น กระปรี่กระเปร่า เพื่อที่จะเตรียมร่างกายให้พร้อมทำงานในเช้าวันใหม่ หลายท่านคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะนึกถึง “กาแฟ” และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าสารสำคัญหลักที่ออกฤทธิ์ดังกล่าวในกาแฟนั้นคือ “คาเฟอีน”หากท่านเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการรับประทานกาแฟและรับประทานกาแฟเป็นประจำ ท่านรู้หรือไม่ว่าคาเฟอีนมีประโยชน์และโทษต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง 
       โดยทั่วไปในกาแฟ 1 แก้ว 150 มิลลิลิตร หรือเท่ากับผงกาแฟปริมาณ 2  ช้อนชา จะมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบอยู่ประมาณ 80-100 มิลลิกรัมแล้วแต่ชนิดของกาแฟ  จากข้อมูล การได้รับคาเฟอีนต่อวันของ USDA คนปกติสามารถดื่มกาแฟขนาดแก้ว 150 มิลลิลิตร ได้ 4 แก้วต่อวัน นั่นหมายความว่าเราสามารถรับประทานคาเฟอีนได้ถึง 400 มิลลิกรัมต่อวัน  โดยแนะนำให้พิจารณาปริมาณกาแฟที่รับประทานเป็นจำนวนมิลลิลิตรที่รับประทานเข้าไปจะดีกว่า เนื่องจากในท้องตลาดขนาด 1 แก้วมักจะมีปริมาณมากกว่า 150 มิลลิลิตร ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าในผลิตภัณฑ์อาหารแต่ละชนิดมีปริมาณคาเฟอีนเท่าไรกันบ้าง 
	
		
			| 
			 ผลิตภัณฑ์ 
			 | 
			
			 ปริมาณต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 
			 | 
			
			 ปริมาณ Caffeine ต่อหน่วยบริโภค 
			 | 
		
	
	
		
			| 
			 กาแฟผงชง 
			 | 
			
			 12 กรัม 
			 | 
			
			 65 มิลลิกรัม 
			 | 
		
		
			| 
			 กาแฟกระป๋อง 
			 | 
			
			 175 มิลลิลิตร 
			 | 
			
			 74 มิลลิกรัม 
			 | 
		
		
			| 
			 โคคาโคล่า 
			 | 
			
			 250 มิลลิลิตร 
			 | 
			
			 23 มิลลิกรัม 
			 | 
		
		
			| 
			 ช็อกโกแลต 
			 | 
			
			 30 กรัม 
			 | 
			
			 16 มิลลิกรัม 
			 | 
		
	
ตารางแสดงปริมาณคาเฟอีนในผลิตภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ
โดยคาเฟอีนมีรายงานว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้
	- ส่งเสริมความจำระยะสั้น ป้องกันการเป็นโรคความจำเสื่อม Alzheimer's disease
 
	- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคพาร์กินสัน
 
	- ทำให้ตื่นตัว เนื่องมาจากมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทซิมพาร์เทติก
 
	- ลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน
 
       ส่วนข้อเสียของคาเฟอีนจากรายงานพบดังนี้
	- เพิ่มความดันโลหิต หลังจากรับประทาน แต่ยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนว่าเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตหรือไม่
 
	- กระตุ้นการปัสสาวะ
 
	- นอนไม่หลับ 
 

รูปภาพอ้างอิงจาก Rob M.,Frank B. H, Walter C W, et al. Coffee Caffeine and Health. The New England Journal of Medicine 2020; 383,369-378.
       ในขณะเดียวกันการรับประทานคาเฟอีนมากกว่า 250 มิลลิกรัม มักจะทำให้เกิดอาการ ใจสั่น  มีอาการทางระบบประสาท และมีอาการทางระบบทางเดินอาหารได้ และการรับประทานคาเฟอีนมากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน  อาจจะทำให้เกิดความอาการสับสน กระสับกระส่าย  ในคนที่ติดการดื่มกาแฟ อาจเกิดอาการเพ้อ  และอาการเบื่ออาหาร  ในบางกรณีที่จัดเป็นการเกิดพิษจากการรับประทานคาเฟอีนในปริมาณสูง มักพบอาการ หัวใจเต้นเร็ว  ชัก โคม่า และเสียชีวิตด้วยภาวะปอดบวม, หัวใจเต้นผิดจังหวะ
       จะเห็นได้ว่าคาเฟอีนซึ่งเป็นสารสำคัญในกาแฟมีทั้งประโยชน์และโทษ  ในทางปฏิบัติตัวทั่วไปแนะนำให้รับประทานกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆที่มีคาเฟอีนแต่พอดีตามความจำเป็น เนื่องจากการศึกษาผลต่อร่างกายในระยะยาวสำหรับสารนี้ยังค่อนข้างมีน้อย ซึ่งนั่นไม่ได้แปลว่าไม่มีข้อมูลจะไม่มีข้อเสียต่อร่างกาย 
 

 
เรียบเรียงโดย
ภญ.ศุธิดา  แผ่นมณี
 
เอกสารอ้างอิง
[1] สุรีย์รัตน์ พิพัฒน์จารุกิตติ์. การดื่มกาแฟกับผลกระทบต่อสุขภาพ. [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 17 ต.ค. 2563]. http://nutrition.anamai.moph.go.th/images/files/สุรีย์รัตน์-1.%20ผลกระทบต่อสุขภาพจากการดื่มการแฟ.pdf
[2] Yenisetti SC, Muralidhara. Beneficial Role of Coffee and Caffeine in Neurodegenerative Diseases: A Minireview. AIMS Public Health 2016; 3(2), 407-422.
[3]  Messina G, Zannella C, Monda V, Dato A, Liccardo D, De Blasio S, et al. The Beneficial Effects of Coffee in Human Nutrition. Biol Med (Aligarh) 2015,7:4.
 
