ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง ไม่เหมือนแพ้นมวัวที่เกิดจากการแพ้โปรตีนในน้ำนมวัว
แต่ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง เกิดจากความผิดปกติของลำไส้เล็กที่ไม่สามารถผลิตเอนไซม์แลคเตสที่ใช้ย่อยน้ำตาลแลคโตสได้เพียงพอ
ในเด็กเล็กที่เป็นภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง ไม่แนะนำให้หยุดนมแม่ เพราะนมแม่มีประโยชน์
แต่ให้เด็กกินนมส่วนหลังมากกว่านมส่วนหน้า เพราะน้ำนมส่วนหน้ามีน้ำตาลแลคโตสมาก
ส่วนเด็กโตที่กินอาหารได้หลากหลายกว่า ให้ดื่มนมหรืออาหารที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส
ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง เป็นสาเหตุให้เด็กมีอาการปวดท้อง ท้องอืด ลมในท้องเยอะ ผายลมบ่อย ส่วนใหญ่มีอาการใน 2-3 ชั่วโมงหลังดื่มนม
ลองสังเกตจากอาการเหล่านี้ ที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากลูกกินนมไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง
อาการเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก โดยเฉพาะอาการท้องเสีย ปวดท้อง ท้องอืด และมีแก๊สในท้อง
ส่วนผสมของไฮคิว แลคโตสฟรี : กลูโคสไซรัป 56.5% น้ำมันพืช (น้ำมันปาล์ม 8.3% น้ำมันมะพร้าว6.7% น้ำมันดอกทานตะวัน 6.2% น้ำมันถั่วเหลือง 4.4) 25.6% โปรตีนจากนม (แคลเซียม เคซิเนต) 13.4% เกลือแร่รวม 2.7% น้ำมันที่ให้กรดอะแรชิโดนิก (เออาร์เอ) 0.49% วิตามินรวม 0.26% น้ำมันปลาที่มีดีเอชเอ 0.24% แอล-ซีสเตอีน 0.15% ทอรีน 0.03% แอล-คาร์นิทีน 0.01% อิมัลซิไฟเออร์ (เลซิทิน) มีผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์จากนม และน้ำมันปลา
ในสูตรประกอบด้วย - สูตรโปรตีนจากนม (แคลเซียม เคซิเนต) - สารอาหารจำเป็นต่างๆรวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ - มีดีเอชเอและเออาร์เอ - มีกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า3 และ 6 - มีโคลีน - ปราศจากน้ำตาลแลคโตส
การจัดเตรียมและการใช้งาน 1. ล้างมือให้สะอาด 2. ต้มหรือนึ่งขวดนม ฝาครอบ จุกนม หรือถ้วยที่ล้างสะอาดแล้วในน้ำเดือดที่สะอาดนาน 10 นาที 3. ต้มน้ำดื่มจนเดือนนาน 5 นาที และทิ้งไว้ ให้เย็นประมาณ 30 นาที 4. เติมน้ำสุกอุ่น (40˚C) ที่ต้มเดือดมาแล้วลงในขวดนม ตามปริมาณที่กำหนด 5. ตวงนมผง ไฮคิว เอช เอ 1 พรีไอโอโพรเทก ตามช้อนตวงที่ปาดแล้วในปริมาณที่กำหนด 6. ปิดฝาและเขย่าขวดเบาๆ จนนมผงละลายหมด ควรผสมครั้งละ 1 มื้อและควรทิ้งนมที่ดื่มไม่หมด